เคล็ดลับการฝึกสุนัขขั้นพื้นฐาน

Posted Date: 20/01/2568

เคล็ดลับการฝึกสุนัขขั้นพื้นฐาน

เจ้าของมือใหม่อาจจะกังวลว่า การฝึกสุนัข นั้นยุ่งยาก ไม่เป็นมืออาชีพไม่สามารถฝึกได้แต่ความจริงแล้วเราสามารถฝึกน้องหมาให้มีระเบียบได้ง่ายๆ การฝึกสุนัขควรเริ่มตั้งแต่ยังเล็ก เพื่อให้สุนัขคุ้นเคยกับคำสั่งและกฎระเบียบต่างๆ การฝึกตั้งแต่แรกจะช่วยลดปัญหาพฤติกรรมที่ไม่น่ารักในอนาคต

ก่อนเริ่มฝึกควรทำความเข้าใจก่อน การฝึกนั้นจำเป็นต้องใช้เวลา ความอดทนเป็นอย่างมากโดยเฉพาะเจ้าของมือใหม่ที่เพิ่งเลี้ยงสุนัขเป็นครั้งแรก อาจจะพบเจอสุนัขไม่ทำตามคำสั่ง หรือ ไม่เชื่อฟังบ้างในบางครั้ง OKIKO ขอแนะนำว่าอย่าเพิ่งท้อหรือเลิกการฝึกไป เราต้องค่อยๆ ศึกษานิสัย ความชื่นชอบของน้องสุนัขก็แล้วค่อยปรับเปลี่ยนกันไปตามความเหมาะสม

แนวทางการฝึกนิสัยสุนัขเบื้องต้น

แนวทางการฝึกนิสัยสุนัขเบื้องต้น

1. รู้จักนิสัยและพฤติกรรมน้องสุนัข

ไม่ว่าน้องหมาจะอายุเท่าไหร่ก็สามารถฝึกได้เสมอ ควรเริ่มฝึกตั้งแต่ตอนเล็ก (ประมาณ 6 - 8 สัปดาห์) จะง่ายกว่า แต่ถ้าพลาดช่วงนั้นไปก็ไม่ต้องกังวลใจ เริ่มต้นตอนนี้ยังทันเพียงแค่ใช้เวลาและความอดทนสักนิดแต่ละสายพันธุ์ก็เรียนรู้ไม่เหมือนกัน บางสายพันธุ์อย่าง เช่น เยอรมัน เชพเพิร์ด พุดเดิ้ล หรือสุนัขต้อนแกะ จะเรียนรู้ได้เร็วและเก่งมาก แต่สำหรับน้องหมาพันธุ์ผสมหรือสุนัขที่มีประสาทดมกลิ่นดีอย่างบลัดฮาวน์ อาจจะขี้เล่นและสนใจสิ่งรอบตัวมากกว่า ทำให้ต้องใช้เทคนิคพิเศษใน การฝึกสุนัข นิดหนึ่ง ระหว่างการฝึกเราควรสังเกตดูพฤติกรรมนิสัยใจคอของเขาว่าเป็นแบบไหน ชื่นชอบ หรือ โฟกัสอะไรเป็นพิเศษเพื่อให้ปรับเปลี่ยนการฝึกที่เหมาะสมกับเขาได้

2. เตรียมสถานที่ฝึกที่เหมาะสม

สุนัขส่วนมากจะไม่สามารถโฟกัสหรือจดจ่อกับอะไรได้นานๆ เท่ากับคน ดังนั้นเวลาจะฝึกน้องหมาให้เชื่องและฉลาด ควรหา สถานที่เงียบๆ หามุมสงบๆ ภายในบ้าน หลังบ้าน หรือ ในสวน ที่ไม่มีเสียงดังรบกวน เช่น เสียงทีวี เสียงรถ หรือเสียงคนเดินผ่านไปมา เพราะน้องหมาจะได้ตั้งใจฟังคำสั่งของเราได้เต็มที่ เวลาที่ใช้ฝึกนั้น 30 นาทีไม่เกิน 1 ชั่วโมง เพราะหากนานจนเกินไปจะทำให้น้องสุนัขเบื่อและไม่โฟกัสกับสิ่งที่ฝึกได้

3. การให้ขนมสุนัข เพื่อเป็นรางวัล

ข้อนี้ถือว่ามีผลต่อการฝึกมากๆ เป็นการกระตุ้นว่าถ้าสุนัขทำตามสิ่งที่เราออกคำสั่งได้จะได้รับ ขนมหมา เป็นรางวัล หากไม่ยอมทำตามก็จะอดกินขนมหมานั้นเอง ทำให้เขาอยากทำตามที่เราออกคำสั่งมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเริ่มฝึกเราต้องเตรียมขนมหมาชิ้นเล็กๆ เอาไว้สำหรับเป็นรางวัลชมเชย แต่อย่าลืม! ว่าเราต้องให้ขนมหมาเรื่อยๆตลอดการฝึก การเลือกซื้อ ขนมหมา ที่ดีต่อสุขภาพ มีประโยชน์เป็นเรื่องที่ขาดไม่ได้โดยเด็ดขาด OKIKO ขอแนะนำขนมหมาที่มีประโยชน์ กินง่าย ไม่ทำลายสุขภาพอย่าง แซลมอนสไลด์อบแห้ง

ขนมสุนัขจาก OKIKO

แซลมอนสไลด์อบแห้ง เหมาะสำหรับทุกสายพันธุ์ แพ้โปรตีนจากเนื้อและไก่สามารถทานได้ ผลิตจากเนื้อปลาแท้ 100 % ไม่มีการเติมแป้ง หรือ น้ำตาล มีประโยชน์ ใช้เป็นรางวัลตลอดการฝึกได้สบายๆ

วัตถุดิบทำจากเนื้อปลาแซลมอน และปลาเนื้อขาว เหมาะสำหรับสุนัขทุกสายพันธุ์ เหมาะสำหรับสุนัข อายุตั้งแต่ 3 เดือนขึ้นไป

  • ผลิตจากเนื้อปลาแท้ 100%

  • น้องหมาแพ้ง่ายก็ทานได้ (แพ้โปรตีนจากเนื้อไก่)

  • หอมอร่อย ถูกใจน้องหมาแน่นอน

  • ได้คุณภาพ มาตรฐานสำหรับอาหารสุนัข

แซลมอนสไลด์อบแห้ง OKIKO

อ่านรายละเอียดสินค้าเพิ่มเติม คลิก !

4. ฝึกให้กินอาหารเป็นเวลา

การฝึกแรกที่ควรฝึกเลย คือการฝึกสุนัขกินอาหารให้เป็นเวลา จะช่วยให้เราดูแลน้องได้สบายขึ้น โดยกำหนดตารางเวลาและปริมาณให้เหมาะสมกับวัยและน้ำหนัก 2 มื้อต่อวันกำหนดช่วงเวลาในการกินด้วยเช่นกัน ให้เวลาประมาณ 20 นาที หากยังกินไม่หมด หรือ ไม่ยอมกิน ให้เก็บชามขึ้นเลย ขั้นตอนนี้จะทำให้น้องค่อยๆรู้เวลาที่ต้องกินข้าวไม่เช่นนั้นจะไม่ได้กินอีกจนกว่าจะถึงเวลาถัดไป ระหว่างการฝึกขั้นตอนนี้ไม่ควรให้กินขนมสุนัขหรืออาหารอื่นนอกจากที่เท เพื่อไม่ให้น้องเคยชิน

5. ฝึกสุนัขขับถ่ายให้เป็นที่

การที่สุนัขขับถ่ายเรี่ยราด นอกจากจะทำให้บ้านเหม็นแล้ว ยังส่งผลเสียต่อสุขอนามัยภายในบ้านอีกด้วย การฝึกให้สุนัขขับถ่ายเป็นที่จึงเป็นสิ่งสำคัญมาก เราสามารถเริ่มต้นได้โดยการกำหนดจุดขับถ่ายให้ชัดเจน หาแผ่นรองซับอนามัยไว้ในมุมที่ต้องการ แล้วพาสุนัขไปยังจุดนั้นเป็นประจำ เมื่อสุนัขทำถูกต้อง ก็อย่าลืมให้รางวัลเพื่อเป็นการเสริมแรงพฤติกรรมที่ดี

6. เริ่มฝึกจากคำสั่งง่ายๆ

หลังจากน้องสุนัขเริ่มมีระเบียบต่างๆ ที่เราฝึกไปแล้วไม่ว่าจะเวลาการกิน หรือ ขับถ่ายให้เป็นที่ สามารถฝึกขั้นต่อไปกันได้เลย ลองฝึกจากคำสั่งง่ายๆ ให้น้องเริ่มเข้าใจคำสั่ง ไม่ว่าจะเรียกชื่อ ให้นั่ง ลุก ขอมือ ทีละสเต็ป เคล็ดลับให้น้องทำตามคือ เรียกชื่อสุนัขแล้วเขย่าถุงขนมหมา ถ้าสุนัขมีการตอบสนองหันมาเราก็ให้ขนมหมาทันที ทำซ้ำๆ จนกวาน้องจะหันเองเวลามีคนเรียกชื่อ

สำหรับการฝึกให้สุนัขลุกหรือนั่งโดยการถือขนมสุนัขล่อไว้เหนือหัวสุนัข เมื่อสุนัขมองตามขึ้นมา ลำตัวน้องจะค่อยๆ ย่อนั่งเองแบบออโต้ หรือ ชู ขนมสุนัข ให้สูงพอที่น้องจะลุกขึ้นมา ทำแบบนี้ซ้ำๆ จนกว่าน้องจะเข้าใจคำสั่งของเรา

เคล็ดลับการฝึกสุนัขให้เข้ากับคุณในชีวิตประจำวัน

1. เข้าใจไลฟ์สไตล์ของคนเลี้ยง

ก่อนจะเริ่มฝึกสุนัข สิ่งสำคัญคือการทำความเข้าใจไลฟ์สไตล์ของทั้งคุณและสุนัข เพราะไลฟ์สไตล์ของแต่ละคนแตกต่างกันออกไป เช่น บางคนอาจทำงานนอกบ้านตลอดเวลา บางคนอาจทำงานที่บ้าน หรือชอบพาสุนัขไปเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ การรู้จักไลฟ์สไตล์ของตัวเองจะช่วยให้คุณเลือกวิธีการฝึกสุนัขได้อย่างเหมาะสม เช่นสวมสายจูง ฝึกให้น้องไม่เห่า เข้ากับคนง่ายไม่กลัวคน

2. จัดทำตารางทำร่วมกันเพื่อให้น้องสนิทและไว้ใจ

เมื่อรู้จักไลฟ์สไตล์ของทั้งเราและสุนัขแล้ว ลองวางแผนกิจกรรมที่เราจะทำร่วมกัน การมีตารางเวลาที่แน่นอน จะช่วยให้ทั้งเราและสุนัขปรับตัวเข้าหากันได้ง่ายขึ้น และสร้างความผูกพันที่แน่นแฟ้นมากขึ้น ลดอาการพฤติกรรมรุนแรงเช่น ทำลายข้าวของ ดุร้าย ไม่เชื่อฟังคำสั่ง

กิจกรรมแนะนำสำหรับคนเลี้ยงมือใหม่

  • พาไปเดินเล่นทุกวัน
  • อาบน้ำให้น้องทุกๆ 2 สัปดาห์
  • ทำความสะอาดขน แปรงขนเป็นประจำทุกสัปดาห์
  • พาไปเจอคนบ้างเพื่อลดอาการกลัวคน

3. ฝึกให้น้องหมาเข้าใจเวลากลางวันและกลางคืน

การฝึกสุนัข ให้นอนหลับพักผ่อนตามเวลา เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้ทั้งเจ้าของและสุนัขมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการฝึกให้สุนัขนอนหลับพักผ่อนในเวลากลางคืน จะช่วยลดปัญหาการรบกวนจากเสียงเห่าหอนในตอนกลางคืนได้เป็นอย่างดี เพียงแค่เราเริ่มต้นจากการ กำหนดเวลาในการให้อาหาร โดยเฉพาะมื้อเย็น ควรให้เป็นเวลาที่แน่นอนทุกวัน เพื่อให้ร่างกายของสุนัขปรับตัวเข้ากับตารางเวลา จากนั้น พาสุนัขออกไปทำกิจกรรม เช่น เดินเล่น วิ่งเล่น หรือเล่นเกมต่างๆ ในช่วงหัวค่ำ เพื่อให้สุนัขได้ออกแรงใช้พลังงานอย่างเต็มที่ เมื่อถึงเวลาเข้านอน สุนัขก็จะรู้สึกง่วงนอนและพร้อมที่จะพักผ่อน

เคล็ดลับการฝึกสุนัขให้เข้ากับคุณในชีวิตประจำวัน

Okiko
Header More Blog

related blog

Okiko

ช็อปสินค้าพร้อมส่ง

let’s shop

Call to Action BG