รู้ทันโรคไตแมว! สัญญาณอาการ อาหารต้องกิน–เลี่ยง พร้อมเคล็ดลับดูแลไตให้แข็งแรง

Posted Date: 12/12/2568

รู้ทันโรคไตแมว! สัญญาณอาการ อาหารต้องกิน–เลี่ยง พร้อมเคล็ดลับดูแลไตให้แข็งแรง | Okiko

โรคไตเป็นปัญหาสุขภาพร้ายแรงที่พบบ่อยในแมว โดยเฉพาะในแมวสูงอายุ สถิติชี้ว่าแมวมากกว่า1 ใน 3 อาจเผชิญภาวะไตวายในช่วงชีวิต การดูแลสุขภาพไตจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม บทความนี้จะสรุปสาเหตุ สัญญาณอาการแมวเป็นโรคไต โภชนาการที่เหมาะสม และแนวทางป้องกันโรคไตในแมว เพื่อช่วยให้เจ้าของสามารถยืดอายุและมอบชีวิตที่ดีที่สุดให้กับเพื่อนรักสี่ขาของคุณ

โรคไตในแมวคืออะไร? ทำไมแมวทั่วไปก็เสี่ยงได้

ไต (Kidney) มีหน้าที่สำคัญในการกรองของเสีย ควบคุมสมดุลน้ำและแร่ธาตุ เมื่อไตเสียหายจากหลายสาเหตุ เช่น การติดเชื้อ สารพิษ หรือความเสื่อมตามวัย ความสามารถในการทำงานจะลดลง นำไปสู่ โรคไต หรือภาวะไตวาย

แมวมีความเสี่ยงโรคไตสูงเป็นพิเศษ เนื่องจากธรรมชาติของแมวที่ปรับตัวให้อยู่รอดในสภาพแวดล้อมที่ขาดน้ำ ทำให้มีกลไกดูดซึมน้ำกลับคืนสูง ส่งผลให้ปัสสาวะเข้มข้น และไตต้องทำงานหนักอย่างต่อเนื่อง การขาดน้ำเรื้อรัง และการได้รับสารอาหารที่ไม่เหมาะสม เช่น อาหารที่มีโซเดียมหรือฟอสฟอรัสสูงเกินไป จึงเป็นปัจจัยเร่งสำคัญที่ทำให้ไตของแมวทำงานหนักจนเกิดความเสียหายสะสมในระยะยาว

โรคไตในแมวแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ได้แก่
  1. ภาวะไตวายเฉียบพลัน: เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและรุนแรง มักมีสาเหตุจากการได้รับสารพิษหรือการติดเชื้อรุนแรง หากได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที ไตมีโอกาสฟื้นตัวได้
  2. ภาวะไตวายเรื้อรัง: เป็นภาวะที่พบบ่อยกว่า เกิดจากความเสื่อมของไตสะสมเป็นเวลานาน เป็นกระบวนการที่ย้อนกลับไม่ได้ แต่สามารถชะลอความเสื่อมและจัดการอาการเพื่อรักษาคุณภาพชีวิตได้
อาการแมวเป็นโรคไตที่เจ้าของควรรู้ไว้ล่วงหน้า

โรคไตเรื้อรังมักไม่แสดงอาการชัดเจนจนกว่าไตจะเสียหายไปมากแล้ว การสังเกตอาการเล็กน้อยจึงสำคัญมาก หากสงสัยว่า แมวเป็นโรคไต หรือไม่ ให้สังเกต อาการแมวเป็นโรคไต เหล่านี้ ซึ่งเป็นสัญญาณเตือนที่เจ้าของไม่ควรละเลย

  • ดื่มน้ำและปัสสาวะบ่อยผิดปกติ: เป็นอาการแรก ๆ ที่พบได้ชัดเจนที่สุด เนื่องจากไตไม่สามารถเก็บกักน้ำไว้ได้ แมวจึงต้องดื่มน้ำมากขึ้นเพื่อชดเชยการสูญเสีย และปัสสาวะออกมามากขึ้นและมีสีจางลง
  • เบื่ออาหารและน้ำหนักลด: แมวที่ไตทำงานผิดปกติมักมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน และรู้สึกไม่สบายในช่องท้องจากของเสียที่คั่งค้าง ทำให้ความอยากอาหารลดลงอย่างมาก
  • อาเจียนและท้องเสีย: การสะสมของสารพิษยูเรียในกระแสเลือด (Uremia) ทำให้เกิดการระคายเคืองในระบบทางเดินอาหาร
  • อ่อนเพลียและซึม: ของเสียในเลือดสูงทำให้แมวรู้สึกไม่สบายตัว ไม่กระฉับกระเฉง และมีอาการซึมเซา
  • สภาพขนและผิวหนังแย่ลง: ขนหยาบ แห้งกร้าน และไม่ได้รับการดูแลที่ดีเนื่องจากความอ่อนแอและภาวะขาดน้ำ
  • กลิ่นปากรุนแรงผิดปกติ: เป็นผลมาจากระดับยูเรียในเลือดสูงและถูกขับออกมาทางลมหายใจ ทำให้มีกลิ่นคล้ายแอมโมเนียหรือกลิ่นเหม็นเปรี้ยว

หากพบสัญญาณเหล่านี้ ควรรีบพาแมวไปพบสัตวแพทย์เพื่อตรวจเลือดและปัสสาวะทันที การวินิจฉัยตั้งแต่เนิ่น ๆ ช่วยให้การจัดการโรคมีประสิทธิภาพสูงสุด

blog image
เคล็ดลับการเลือกอาหารแมวให้ห่างไกลโรคไต

การควบคุมอาหารคือหัวใจสำคัญของการดูแลสุขภาพไต แม้ในแมวที่ยังไม่แสดงอาการของโรคไต การเลือกโภชนาการที่เน้นการป้องกันตั้งแต่เนิ่น ๆ ถือเป็นการลงทุนด้านสุขภาพที่คุ้มค่าที่สุด

ปัจจัยสำคัญในโภชนาการที่ดีต่อไต
  1. ควบคุมปริมาณโซเดียม: อาหารที่มีโซเดียมสูงทำให้ไตทำงานหนัก การเลือกอาหารที่ ควบคุมปริมาณโซเดียม จึงสำคัญอย่างยิ่งต่อการป้องกันความเสียหายของไต
  2. โปรตีนคุณภาพสูง: ช่วยลดภาระของเสียที่ไตต้องกรอง เนื่องจากเป็นโปรตีนที่สามารถดูดซึมและนำไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  3. กรดไขมันโอเมก้า 3: เช่น จากน้ำมันปลาแซลมอน ช่วยลดการอักเสบภายในไต และชะลอความเสื่อมได้
  4. ปริมาณน้ำในอาหาร: อาหารเปียก ที่มีน้ำสูงช่วยให้แมวได้รับน้ำเพียงพอ ซึ่งสำคัญที่สุดในการช่วยให้ไตทำงานได้ดี

การเลือกอาหารที่มุ่งเน้นการควบคุมโซเดียมและมีโปรตีนคุณภาพสูงเป็นสิ่งสำคัญ อาหารเม็ดสำหรับแมว OKIKO โอกิโกะ ตอบโจทย์การดูแลสุขภาพไตในทุกช่วงวัย ทุกสูตรมีการควบคุมโซเดียมและให้โปรตีนคุณภาพสูงจากเนื้อสัตว์ พร้อม โอเมก้า 3 จากน้ำมันปลาแซลมอน ซึ่งมีส่วนช่วยบำรุงไตและลดการอักเสบโดยรวม

นอกจากนี้ ควรเสริมด้วย อาหารเปียกแมว OKIKO โอกิโกะ เพื่อเสริมน้ำและความชุ่มชื้น โดย อาหารเปียกแมว โอกิโกะ ทุกสูตร ไม่มีการเติมเกลือ ถือเป็นการควบคุมโซเดียมที่ดีเยี่ยม และปริมาณความชื้นสูงยังช่วยให้แมวได้รับน้ำเพียงพอ ลดภาระการทำงานของไต

อาหารที่ควรเลี่ยง หากไม่อยากให้ไตแมวทำงานหนักเกินไป

เพื่อลดภาระการทำงานของไตและลดความเสี่ยงของโรคไตในอนาคต เจ้าของควรหลีกเลี่ยงการให้อาหารที่มีคุณสมบัติเหล่านี้:

  1. อาหารที่มีโซเดียมสูง: เช่น อาหารคนปรุงรสจัด ขนมขบเคี้ยว หรือเนื้อแปรรูป โซเดียมที่มากเกินไปทำให้ไตต้องทำงานหนัก การเลือกอาหารแมวที่เน้นการ ควบคุมโซเดียม จึงสำคัญมาก
  2. อาหารที่มีฟอสฟอรัสสูงเกินไป: สำหรับแมวปกติ ควรเลือกอาหารที่มีฟอสฟอรัสในระดับที่เหมาะสม ไม่สูงจนเกินไป เพราะการสะสมฟอสฟอรัสเป็นตัวเร่งความเสียหายของไตในแมวป่วยได้
  3. อาหารที่ไม่สมดุล: การให้กินแต่ปลาหรือเนื้อดิบในปริมาณมากอย่างไม่สมดุล อาจทำให้เกิดภาวะได้รับแร่ธาตุบางชนิดมากเกินไป ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อการทำงานของไต

การให้อาหารที่มีความชื้นสูงและควบคุมเกลืออย่างเข้มงวด ถือเป็นแนวทางปฏิบัติที่ดีในการส่งเสริมสุขภาพไตของแมว

สรุป

การดูแลสุขภาพไตของแมวเป็นความรับผิดชอบที่ต้องอาศัยทั้งความเข้าใจและโภชนาการที่เหมาะสม การหมั่นสังเกตอาการแมวเป็นโรคไต ตั้งแต่เนิ่น ๆ และพาไปตรวจสุขภาพเป็นประจำจะช่วยให้สามารถจัดการกับโรคได้อย่างทันท่วงที สิ่งสำคัญที่สุดคือการเลือกอาหารแมวป้องกันโรคไต ที่เน้นคุณภาพของโปรตีน ควบคุมปริมาณโซเดียม และเสริมกรดไขมันโอเมก้า 3

การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีความใส่ใจในการควบคุมโซเดียม เช่น อาหารเม็ดโอกิโกะ (OKIKO) ทุกสูตร และ อาหารเปียกแมว OKIKO โอกิโกะ ทุกสูตร ไม่มีการเติมเกลือ ถือเป็นทางเลือกที่ชาญฉลาด เพราะช่วยลดภาระการทำงานของไตและส่งเสริมการได้รับน้ำอย่างเพียงพอ ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญสู่การมีสุขภาพไตที่ดี และการยืดอายุขัยของเจ้าเหมียวที่คุณรักได้อย่างมีความสุข



สารบัญ

    Okiko
    Header More Blog

    related blog

    Okiko

    ช็อปสินค้าพร้อมส่ง

    let’s shop

    Call to Action BG